ทำไมขบวนการไกล่เกลี่ยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการยื่นข้อเรียกร้องในโครงการก่อสร้าง (Construction Claims)
หากกล่าวถึงการยื่นข้อเรียกร้องในโครงการก่อสร้าง คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงความเครียดที่เกิดจากกระบวนการฟ้องร้อง การดำเนินคดีที่ยืดเยื้อยาวนานและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดร.อภิรัตน์ ประทีปอุษานนท์ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค ของ Tungsten Capital ประจำประเทศไทย นักวิเคราะห์เหตุล่าช้า (Forensic Delay) และที่ปรึกษาทางด้านการยื่นข้อเรียกร้องในโครงการก่อสร้าง (Construction Claims Consultant) อธิบายว่า...
เฉพาะในบางกรณีเท่านั้นที่จำเป็นต้องจบด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาขั้นสุดท้าย โดยที่ไม่มีฝ่ายไหนต้องการให้ไปจบขั้นตอนนั้น
จากที่ผ่านมาเราเคยพูดถึงข้อดีของการเตรียมการสำหรับการยื่นข้อเรียกร้องก่อนที่จะเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริงมาแล้ว วิธีการก็คือใช้เครื่องมือการบริหารจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบคอนโซล (ConZoL) ของเรา ที่จัดเก็บข้อมูลไว้บนฐานข้อมูลออนไลน์ (Cloud Based System) เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการจัดการโครงการก่อสร้างในลักษณะของการเตรียมป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ทำให้เราสามารถ เข้าถึงปัญหา และจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ก่อนที่ปัญหาเกิดขึ้นจะลุกลามบานปลายออกไปจนถึงขั้นที่จะมีการฟ้องร้อง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจัดการบริหารเอกสารบนฐานข้อมูลออนไลน์
ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการยื่นข้อเรียกร้องโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการหาข้อยุติให้กับประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ก็คือการไกล่เกลี่ย ซึ่งเป็นวิธีการคลี่คลายปัญหาข้อเรียกร้องในโครงการก่อสร้างที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีข้อดีหลายประการดังต่อไปนี้
- การไกล่เกลี่ยเป็นกระบวนการที่กระทำอย่างเป็นความลับ โดยไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของการเจรจา เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการหาข้อยุติความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เช่น การตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการและการฟ้องร้องดำเนินคดี สำหรับกรณีที่การไกล่เกลี่ยไม่ประสบผลสำเร็จ
- ในระหว่างขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ทุกฝ่ายยังมีอำนาจในการตัดสินใจเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น สามารถคัดเลือกตัวแทนในการไกล่เกลี่ยที่มีประสบการณ์ในโครงการก่อสร้าง จากนั้นจึงหาข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากถ้าปล่อยให้ไปถึงขั้นตอนการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ อำนาจในการตัดสินใจของลูกค้าจะถูกลดลงไปอย่างมาก
- การไกล่เกลี่ยเป็นขั้นตอนที่ไม่ค่อยเป็นทางการ สามารถจัดขึ้นที่ไหนก็ได้ เช่น ในห้องประชุมของโรงแรม โดยมีทนายความเข้าร่วมในขั้นตอนหรือไม่มีก็ได้ ทำให้บรรยากาศการเจรจาไม่ตึงเครียดจนเกินไป และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็จะไม่สูง
- ขั้นตอนในการการไกล่เกลี่ยมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการและการฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างมาก
- การไกล่เกลี่ยเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีระหว่างกันไว้ได้ ในขณะที่การตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการและการฟ้องร้องดำเนินคดีมักจะนำไปสู่ความบาดหมาง และเกิดความคลางแคลงใจ กับฝ่ายที่เป็นกรณีพิพาท
กุญแจสู่การไกล่เกลี่ยที่ประสบผลสำเร็จ
โดยทั่วไปแล้วการไกล่เกลี่ยดูจะเป็นวิธีการที่ดีกว่าการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการและการฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ทำไมเมื่อเกิดกรณีพิพาท เราถึงไม่เลือกใช้วิธีนี้ คำตอบก็คือการใช้วิธีนี้ไม่ใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย อีกทั้งยังต้องอาศัยความรอบคอบ การวางแผนและการนำเสนอที่ดี รวมถึงต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการยื่นข้อเรียกร้อง ฟ้องร้องดำเนินคดีในโครงการก่อสร้าง
แนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ :
- ขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ผู้ตัดสินใจของทั้งสองฝ่ายจะต้องนำเสนอข้อมูลอย่างชัดเจนและละเอียดและครบถ้วน
- ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความตั้งใจพร้อมที่รับฟัง เพื่อที่จะก่อให้เกิดการประนีประนอม
- ทั้งสองฝ่ายจะต้องนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมีเอกสารหลักฐานประกอบ เพื่อให้สามารถยอมรับสาเหตุของปัญหาร่วมกัน โดยในขั้นตอนการพิจารณาจะต้องเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนและเข้าใจง่าย ทำให้ทั้งสองฝ่ายรับรู้ปัญหาที่แท้จริง เพื่อที่จะนำไปสู่โอกาสให้ผู้ตัดสินใจหรือผู้บริหารอาวุโส จะได้ทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหา ด้วยมุมมองที่เข้าใจถึงปัญหาของแต่ละฝ่าย เพื่อสามารถสรุปเป็นข้อตกลงร่วมกัน โดยเป็นที่ยอมรับได้กับทั้งสองฝ่าย
แม้ว่าสาระสำคัญของการไกล่เกลี่ยอาจฟังดูแล้วมีความเป็นเหตุเป็นผล แต่น่าแปลกใจที่หลักการพื้นฐานดังกล่าวมักถูกละเลย องค์ประกอบสำคัญสามประการดังต่อไปนี้เป็นสิ่งที่นำไปสู่ขบวนการของการไกล่เกลี่ยที่ประสบผลสำเร็จ
- มีขั้นตอนการบริหารจัดการเอกสารที่ดี ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการ
- มีทีมงานที่เข้าใจในขั้นตอนการยื่นข้อเรียกร้องของโครงการก่อสร้างเป็นอย่างดี
- มีความสามารถในการสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
ซึ่งองค์ประกอบทั้งสามประการที่ได้กล่าวมา เป็นหลักสำคัญของ Tungsten Capital